กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4007
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorภาณุวัฒน์ ด่านกลาง-
dc.contributor.authorรัชนีภรณ์ ทรัพย์กรานนท์-
dc.contributor.authorวารี กังใจ-
dc.date.accessioned2021-01-28T05:53:12Z-
dc.date.available2021-01-28T05:53:12Z-
dc.date.issued2562-
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4007-
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและปรับพฤติกรรม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้สูงอายุ และออกแบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้เหมาะกับผู้สูงอายุในชุมชนชายฝั่งทะเล ผลการวิจัย พบว่า 1. พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้สูงอายุในเขตชายฝั่งทะเล ตำบลแสนสุข อำเภอ เมือง จังหวัดชลบุรี ของกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุ จำนวน 300 คน พบว่า ผู้สูงอายุติดตามข้อมูลข่าวสารจากสื่อประเภทโทรทัศน์ทุกวัน รองลงมาคือ วิทยุ สำหรับอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่กลุ่มตัวอย่างไม่สนใจ เมื่อศึกษาความคิดเห็นต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของกลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่เทศบาลเมืองแสนสุข พบว่า ไม่เคยได้รับความรู้เกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ต และมีระยะเวลาเฉลี่ยในการใช้งานน้อยกว่า 30 นาที ทั้งนี้ผู้สูงอายุเห็นว่าการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น โดยเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวมีผลต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นประจาจะช่วยให้ท่านทราบถึงประโยชน์ของการใช้งาน แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการเรียนรู้ จากการศึกษาความต้องการข้อมูลด้านต่าง ๆ พบว่า มีความต้องการสื่อสารกับเพื่อนหรือญาติ และข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับการติดต่อขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉินมากที่สุด 2. การปรับพฤติกรรมด้านการยอมรับเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถพึ่งพาตนเองได้ ได้จัด กิจกรรมอบรมเชิงปฎิบัติการ เรื่อง “วัยเก๋าเข้าใจไอที” ให้แก่ผู้สูงอายุที่สมัครใจเข้าร่วมอบรม จำนวน 60 คน เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและ Social Media เช่น Line Facebook Youtube เป็นต้น อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในอนาคต ระยะเวลาที่ใช้ใน การอบรมทั้งหมด 6 ชั่วโมง โดยมีวิทยากรและผู้ช่วยวิทยากรดูแลรวมถึงตอบข้อซักถาม พร้อมสังเกตุทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการอบรม ผลการวัดทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้สูงอายุ พบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนทักษะการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศของผู้สูงอายุก่อนเรียน แตกต่างจากคะแนนทักษะของผู้สูงอายุหลังเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผู้สูงอายุความพึงพอใจต่อภาพรวมในการจัดโครงการอบรม อยู่ในระดับมาก และเห็นว่าโครงการอบรมฯ มีประโยชน์เป็นอย่างมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากในทุกด้าน ซึ่งมีเรียงลำดับ ดังนี้ ด้านวิทยากรและการบรรยาย ด้านบริการและสถานที่ ด้านเอกสารประกอบการอบรม และด้านกิจกรรมการอบรม ตามลำดับ 3. ระบบแจ้งเตือนเพื่อขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุจะใส่สร้อยคอเป็น อุปกรณ์ขอความช่วยเหลือ ซึ่งมีหน้าที่ส่งข้อมูลการแจ้งเตือนของผู้ส่วมใส่ส่งผ่าน Bluetooth ไปยัง Smartphone ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกตเวย์ ( IoT gateway) เพื่อส่งข้อมูลที่ได้ไปยังระบบแจ้งเตือนเมื่อขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งสามารถแสดงข้อมูลการแจ้งเตือนต่าง ๆ ผ่าน Cloud Service ที่มีผู้ดูแลรับผิดชอบอยู่ ผลการทดสอบการทดลองใช้ระบบฯ พบว่า ผู้สูงอายุเห็นว่าระบบฯ มีประโยชน์เหมาะสม ด้านเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ พบว่า ระบบฯ มีประโยชน์ เหมาะสมครอบคลุมความต้องการ และทำให้สามารถเข้าถึงผู้สูงอายุที่ต้องการความช่วยเหลือได้ง่ายและรวดเร็ว จากผลการวิจัยเสนอแนะว่า การจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับผู้สูงอายุ ระยะเวลาที่เหมาะสมต่อวัน คือประมาณ 3 ชั่วโมง และควรจัดมีการให้ความรู้ซ้ำ ๆ และต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพความพร้อมของร่างกายและความเหนื่อยล้าth_TH
dc.description.sponsorshipสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectเทคโนโลยีสารสนเทศth_TH
dc.subjectพฤติกรรมการใช้th_TH
dc.subjectคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุth_TH
dc.subjectระบบสารสนเทศth_TH
dc.subjectสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนิดทศศาสตร์th_TH
dc.titleการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบสารสนเทศเพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเองและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชนชายทะเลต้นแบบth_TH
dc.title.alternativeTechnology and information systems to enhance the independence and quality of life of the elderly in the coastal communityth_TH
dc.typeResearchth_TH
dc.author.emailpanuwat@eng.buu.ac.thth_TH
dc.author.emailratchana@buu.ac.thth_TH
dc.author.emailwareek@buu.ac.thth_TH
dc.year2562th_TH
dc.description.abstractalternativeThe purpose of this study aimed to examine behavior on using information technology, manage behavior modification for elders on using information technology, and create suitable information technology for elders in the coastal community. The findings indicate as following: 1. Behavior on using information technology for elders in the coastal community around Saen Suk Sub-district, Mueang District, Chonburi Province around 300 people indicate that mostly elders receive daily information and news from television, followed by radio station, and not interest or never use the internet. In addition, most elders never participate in how to use internet training, but they able to use cell phones. The average of using technology for elders is less than 30 minutes per day. The findings of the study found that using information technology for elders in the coastal community around Saen Suk Subdistrict is usefulness for communication with others, anyway, elders need to take a long time for study and familiar with information technology. And the findings of the study found that the most need to using information and technology for elders was to communicate with their family, consult about their health in emergency cases. 2. Behavior modification for elders on using information technology by creating the workshop training as “Elders life with IT” aimed to gain their more knowledge for basic knowledge of using a computer and searching the internet, how to use social media such as Line, Facebook, Youtube, and also prepare for future technology. The total workshop training time was 6 hours with an instructor and co-instructor to support questions and investigate their information technology skills with the number of interesting in topic participants 60 people. The result of elders’ skill after workshop training found that their skill before training and after training is increasing in statistical significance at 0.1. The overview satisfaction of participants is in the high scores, and also useful for elders. In the view of other evaluation aspects, the result is also in the high scores respectively in every evaluation aspects as instructor scores, service and training place scores, overall workshop training activity scores and workshop training document scores. 3. Surveillance and alert system for the elder in an emergency case by using Bluetooth necklace is to connect elder status with a smartphone as IoT gateway to feedback surveillance and alert for the elder in an emergency case via cloud service under controlled by the system controller. The system is usefulness in elders’ views after testing. The system controller found that the system is suitable and convenient to access the elder when required any helps. The findings suggest that the suitable training hour for using information technology workshop training should be around 3 hours with repeated training course due to physical condition and fatigue of elders.th_TH
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2564_164.pdf2.24 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น