กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/9288
ชื่อเรื่อง: ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาต่อการแก้ปัญหาทางสังคมและภาวะซึมเศร้าของนักศึกษาพยาบาล
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ดวงใจ วัฒนสินธุ์
ภรภัทร เฮงอุดมทรัพย์
สิริพิมพ์ ชูปาน
ศิริวัลห์ วัฒนสินธุ์
รัศมิ์สุนันท์ จันทรภักดี
คำสำคัญ: ความซึมเศร้า
นักศึกษาพยาบาล - - วิจัย
ความซึมเศร้า - - การพยาบาล
วันที่เผยแพร่: 2560
สำนักพิมพ์: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
บทคัดย่อ: นักศึกษาพยาบาลเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้าเนื่องจากต้องเผชิญกับการปรับตัวที่หลากหลายทั้งด้านพัฒนาการตามวัย การเรียน และการปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมในมหาวิทยาลัย หากนักศึกษาพยาบาลมีทักษะการแก้ปัญหาทางสังคมที่มีประสิทธิภาพก็จะสามารถจัดการกับปัญหาที่เข้ามาได้อย่างดี ทำให้มีภาวะสุขภาพจิตที่ดีและไม่มีภาวะซึมเศร้า โครงการวิจัยนี้แบ่งออกเป็นสองระยะ ระยะที่หนึ่งเป็นการวิจัยเชิงพรรณนาเพื่อศึกษาภาวะซึมเศร้าและการแก้ปัญหาทางสังคมของนักศึกษาพยาบาลที่ศึกษาอยู่ในคณะพยาบาลศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเขตภาคตะวันออก ในปีการศึกษา 2560 จำนวน 650 คน ส่วนระยะที่สองเป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลองชนิดสองกลุ่มวัดก่อน การทดลอง หลังการทดลอง และติดตามผล 1 เดือน เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการเสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาต่อการแก้ปัญหาและภาวะซึมเศร้าของนักศึกษาพยาบาล จำนวน 60 คน ที่มีภาวะซึมเศร้าระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบง่ายเข้ากลุ่มกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คน เครื่องมือวิจัย ประกอบด้วยแบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินภาวะซึมเศร้า และแบบประเมินการแก้ปัญหาทางสังคม ได้ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค เท่ากับ .89 และ .83 และโปรแกรมการเสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหา ดำเนินการทดลองระหว่างเดือนมกราคมถึง เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนสองทางแบบวัดซ้ำ และการเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีบอนเฟอโรนี ผลการศึกษาพบว่า 1. ผลการวิจัยในระยะที่หนึ่งพบว่า นักศึกษาพยาบาลมีภาวะซึมเศร้าคิดเป็นร้อยละ 32 โดยมีภาวะซึมเศร้าในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางร้อยละ 18 และระดับรุนแรงร้อยละ 14 2. ผลการวิจัยในระยะที่สองพบว่า กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยการแก้ปัญหาทางสังคมในระยะหลังการทดลองเสร็จสิ้นทันที และระยะติดตามผล 1 เดือน (X ̅=106.20, SD.= 14.03 ;X ̅=106.77, SD.= 13.27) สูงกว่ากลุ่มควบคุม ( ̅X=101.07, SD.= 9.34 ;X ̅=101.30, SD.= 9.48) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยภาวะซึมเศร้าในระยะหลังการทดลองเสร็จสิ้นทันที และระยะติดตามผล 1 เดือน (X ̅=13.30, SD.=4.63; ̅X=8.70, SD.=4.42) ต่ำกว่ากลุ่มควบคุม ( ̅X=18.67, SD.=2.50 ;X ̅=18.00, SD.=3.43) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยการแก้ปัญหาทางสังคมในระยะหลังการทดลองเสร็จสิ้นทันที (X ̅=106.20, SD.=14.03) และระยะติดตามผล 1 เดือน (X ̅=106.77, SD.=13.27) สูงกว่าระยะก่อนการทดลอง (X ̅=99.60, SD.=13.14) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5. กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยภาวะซึมเศร้าในระยะหลังการทดลองเสร็จสิ้นทันที (X ̅=13.30, SD.=4.63) และระยะติดตามผล 1 เดือน (X ̅=8.70, SD.=4.42) ต่ำกว่าระยะก่อนการทดลอง (X ̅=19.03, SD.=2.04) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า ภาวะซึมเศร้าในนักศึกษาพยาบาลถือเป็นประเด็นปัญหาทางด้านสุขภาพจิตสำคัญที่คณาจารย์หรือบุคลากรทางสุขภาพควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ควรมีการพัฒนาระบบบริการสุขภาพจิต เพื่อการประเมิน ช่วยเหลือ และติดตามภาวะซึมเศร้าของนักศึกษาพยาบาลอย่างใกล้ชิด ตลอดจนนำโปรแกรมการเสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาไปประยุกต์ในการส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาทางสังคมและลดภาวะซึมเศร้าของนักศึกษาพยาบาล หรือนักศึกษามหาวิทยาลัยกลุ่มอื่นต่อไป
รายละเอียด: โครงการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้จากเงินอุดหนุนรัฐบาล (งบประมาณแผ่นดิน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
URI: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/9288
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2567_024.pdf2 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น