กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3835
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorสุมาลี วรรณาชัยสิทธิ์
dc.contributor.authorภักดี สุขพรสวรรค์
dc.contributor.authorมิกาเอล ไลโซลา
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะเภสัชศาสตร์
dc.date.accessioned2020-04-02T04:05:47Z
dc.date.available2020-04-02T04:05:47Z
dc.date.issued2562
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3835
dc.description.abstractวัตถุประสงค์ของงานวิจัยคือ ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณกรดแอสคอร์บิคและระดับสีของยาเม็ด การเปลี่ยนแปลงของสีเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งของการเสื่อมสภาพของยาเม็ด การศึกษาทำการเก็บยาเม็ดวิตามินซีที่ผลิตโดย 3 บริษัทที่แตกต่าง (A, B และ C) ภายใต้สภาวะเร่ง (40±2°C, 75±5%RH) เป็นเวลา 70 วัน ทำการวิเคราะห์หาปริมาณกรดแอสคอร์บิคโดยเครื่องโครมาโตกราฟฟีเหลวสมรรถนะสูง ทำการประเมินค่าระดับสีของเม็ดยาโดยเทคนิคการประมวลผลด้วยภาพดิจิตอล ผลการทดลองพบว่าปริมาณกรดแอสคอร์บิคของยาเม็ด A, B และ C น้อยกว่า 90% ของปริมาณที่ระบุบนฉลากหลังจากเก็บยาเม็ดในตู้สำหรับศึกษาความคงตัว เป็นระยะเวลา 70 วัน โดยปริมาณกรดแอสคอร์บิคของยาเม็ด A ลดลงเท่ากับ 76.92 % หลังจากเก็บเป็นระยะเวลา 21 วัน การศึกษาระดับสีของเม็ดยาพบว่าในสภาวะเร่ง ระดับสีของยาเม็ดลดลงเมื่อเก็บเป็นระยะเวลานานขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณกรดแอสคอร์บิคกับระดับสี พบว่าสำหรับยาเม็ด A มีค่า R2 ของสมการความสัมพันธ์เท่ากับ 0.9297 ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ที่สูง ยาเม็ด B และ C มีค่าความสัมพันธ์เท่ากับ 0.7017 และ 0.6945 ตามลำดับ แสดงถึงความสัมพันธ์ระดับปานกลาง ผลการศึกษาแสดงว่าการวิเคราะห์ค่าระดับสีจากการประมวลผลด้วยภาพดิจิตอลสามารถคัดกรองเบื้องต้นในการพิจารณาการเสื่อมสภาพของยาเม็ดวิตามินซีได้th_TH
dc.description.sponsorshipงานวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากงบประมาณเงินรายได้ จากเงินอุดหนุนรัฐบาล (งบประมาณแผ่นดิน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 มหาวิทยาลัยบูรพา ผ่านสำนักงานคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติth_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectยาเม็ดth_TH
dc.subjectวิตามินซีth_TH
dc.subjectการประมวลผลภาพ - - เทคนิคดิจิตอลth_TH
dc.subjectสาขาวิทยาศาสตร์เคมีและเภสัชth_TH
dc.titleการศึกษาการเสื่อมสภาพของยาเม็ดวิตามินซี โดยเคมีวิเคราะห์ร่วมกับการประมวลผลด้วยภาพดิจิตอลth_TH
dc.title.alternativeThe study of degradation of vitamin C tablets by chemical analysis with digital image processing techniqueen
dc.typeResearchth_TH
dc.author.emailsumaleew@go.buu.ac.thth_TH
dc.author.emailphakdee@go.buu.ac.thth_TH
dc.year2562th_TH
dc.description.abstractalternativeThe purpose of this research is to study the correlation between the amount of ascorbic acid and the color level of tablets. The color change was one sign of the degradation of substances in the tablet. The study was conducted by storing 3 different brands (A, B and C) of vitamin C tablets under the accelerated condition (40±2°C, 75±5%RH) for 70 days. The tablets were analyzed by high performance liquid chromatography for determination of ascorbic content. The color level of the tablets was quantified by digital image processing technique. The result showed that tablet A, B and C contained ascorbic acid less than 90% of the label amount after storing in a stability chamber for 70 days. The percentage of ascorbic acid content in tablet A was decreased to 76.92 % within 21 days. The study of the color level of the tablets showed that under the accelerated conditions color level of the tablets reduced when storage time increased. The correlation (R2) between the amount of ascorbic acid and the color level of tablet A was 0.9297 indicating high correlation. The correlation (R2) between the amount of ascorbic acid and the color level of tablet B and C were 0.7017 and 0.6945, respectively indicating medium correlation. The result showed the color level analyzed by digital digital image processing technique could be the screening method to determine the degradation of vitamin C tablets. Keywords: ascorbic acid, vitamin C, tablet, stability, digital image processingen
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2563_310.pdf2.33 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น