Abstract:
การพัฒนาวิธีการเก็บรักษาน้ำเชื้อปลาดุกอุย (claria macrocephalus) แบบแช่แข็งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษายความเป็นพิษของสารไครโอโพรเทคแทนท์ และศึกษาผลของการแช่แข็งด้วยอัตราการลดอุณหภูมิ อัตราการละลาย และระยะเวลาเก็บรักษาแตกต่างกันที่มีต่อการเคลื่อนที่ของสเปิร์ม โดยได้แบ่งการทดลองออกเป็น 4 ตอน คือตอนที่ 1 ทดสอบความเป็นพิษของสารละลายไครโอโพเทคแทนท์ 3 ชนิด ได้แก่ Dimerhyl sulfoxied (DMSO), methanol และ ethanol ที่มีความเข้มข้น 4 ระดับ (5%, 10% 15% และ 20%) ที่เวลา 0, 30, 60, 90, 120,150 และ 180 นาที และใช้อัตราส่วนน้ำเชื้อต่อสารละลายไครโอโพรเทคแทนท์ เท่ากับ 1: 1 พบว่า สารละลายไพรโอโพรเทคแทนท์ทั้ง 3 ชนิดมีความเป็นพิษต่อเสปิร์มอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ เนื่องจากยังสามารถทำให้ สเปิร์ม มีชีวิตอยู่ได้นาน 180 นาที ตอนที่ 2 ได้ทำการเก็บรักษาน้ำเชื้อปลาดุกอุย แบบแช่แข็ง โดยใช้สารละลายไครโอโพรแทคแทนท์ 3 ชนิดคือ DMSO, methanol และ ethanol ความเข้มข้น 4 ระดับ (5%, 10% 15% และ 20%) และอัตราส่วนน้ำเชื้อต่อน้ำยาต่อสารละลานไครโอโพรเทคแทนท์ เท่ากับ 1 :1: 1 และใช้อัตราการลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว (10 องศาเซลเซียส ต่อนาที)อัตราการลดอุณหภูมิอย่างปานกลาง (5 องศาเซลเซียส ต่อนาที) และอัตราการลดอุณหภูมิอย่างช้า (3 องศาเซลเซียส ต่อนาที) พบว่าน้ำเชื้อปลาดุกอุยที่แช่แข็งด้วย DMSO มีการเคลื่อนที่หลังการละลาย (thawing) ที่อุณหภูมิ 70 c นาน 5 วินาที แต่น้ำเชื้อปลาดุกอุยที่แช่แข็งด้วย, methanol และ ethanol ไม่เคลื่อนที่หลังการละลาย ตอนที่ 3 ได้นำน้ำเชื้อปลาดุกอุยแช่แข็งมาละลายที่อุณหภูมิ 30, 50และ 70 องศาเซลซียส นาน 5 วินาที ไม่มีผลทำให้การเคลื่นที่ของสเปิร์มหลังการละลายมีค่าแตกต่างกันและการเก็บรักษาน้ำเชื้อปลาดุกอุยแช่แข็งในไนโตรเจนเหลวระหว่า 0-60 วันก็ไม่มีต่อการเคื่นที่ของสเปิร์มหลังการละลายเช่นกัน ตอนที่ 4 การปฏิสนธิของน้ำเชื้อปลาดุกอุยที่ผ่านการแช่แข็ง พบว่า การใช้สารละลาย 10 % DMSO, และ 5 % DMSO ที่ระดับอัตราการลดอถณหภูมิ 3 และ 5 องสาเซลเซียส ต่อนาที ให้เปอร์เซ็นอัตราการปฏิสนธิ ต่ำกว่าการใช้น้ำเชื้อสดในกลุ่มควมคุม