Abstract:
การศึกษาสูตรอาหารเม็ดสำหรับการเลี้ยงปลาดุกอุยจากแนวทางการประเมินประสิทธิภาพการย่อยวัตถุดิบอาหารสัตว์ในหลอดทดลองของเอนไซม์ปลาดุกอุย(Clarias macrocephalus) เริ่มทำโดยสกัดเอนไซม์จากกระเพาะอาหารและลำไส้ของปลาดุกอุยเพื่อหาอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการทำงานของเอนไซม์และช่วงอายุที่มีผลต่อการทำงานของเอนไซม์ แล้วนำเอนไซม์สกัดมาย่อยวัตถุดิบอาหารสัตว์ในหลอดทดลองเพื่อผลิตสูตรอาหารที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงปลาดุกอุย เอนไซม์ทริปซินและไคโมทริปซินจากกระเพาะอาหารและลำไส้ของปลาดุกอุยที่อายุ 45 60 75 90 105 และ 120 วัน เมื่อนำไปทำการวัดแอคติวิตีที่ระกฃดับอุณห๓มิ 20 องศาเซลเซียส ถึง 70 องศาเซลเซียส โดยเพิ่มระดับอุณหภมิครั้งละ 5 องศาเซลเซียส โดยใช้ Benzoyl-L-arginine-p-nitroanilide และ N-succinyl-ala-ala-pro-phe-p-nitronilide เป็นสับสเตรทตามลำดับ พบว่า แอคติวิตีของเอนไซม์ทริปซินมีค่าสุงสุดที่อุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส หรือเมื่อปลาดุกอุยมีอายุ 90 วัน ส่วนแอคติวิตีของเอนไซม์ไคโมทริปซินมีค่าสูงสุดที่อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส หรือเมื่อปลาดุกอุยมีอายุ 60 วัน
การย่อยวัตถุดิบอาหารสัตว์ในหลอดทดลองของเอนไซม์ปลาดุกอุย พบว่าปลาดุกอุยสามารถย่อยปลาบ่นได้ดีที่สุด รองลงมาคือกากถั่วเหลือง ดังนั้นกากถั่วเหลืองจึงเป็นวัตถุดิบอาหารที่เหมาะสมในการนำมาทดแทนปลาบ่นในสูตรอาหารปลาดุกอุย จากนั้นจึงนำกากถั่วเหลืองมาแทนปลาบ่นในสูตรอาหารปลาดุกอุย4สุตรที่ 0 20 30 และ 40เปอร์เซ็นต์ โดยทุกสูตรมีโปรตีน 35 เปอร์เซ้นต์และไขมัน 10 เปอร์เซ้นต์เท่ากัน เลี้ยงปลาดุกอุยน้ำหนัดเฉลี่ย 5.32+-0.47 กรัมเป็นเวลา 10 สัปดาห์ พบว่า ปลาดุกอุยที่เลี้ยงด้วยอาหารทดลองสูตรที่ 2 และ 3 ซึ่งมีกากถั่วเหลืองทดแทนปลาบ่นที่ 20 และ 30 เปอร์เซ็นต์ ให้อัตราการเจริญเติบโตต่อวัน อัตราเจริญเติบโตจำเพาะ อัตราการแลกเนื้อ และประสิทธิภาพการใช้โปรตีนในอาหารต่ำกว่าสูตรควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) แสดงว่ากากถั่วเหลืองสามารถทดแทนปลาบ่นในสูตรอาหารได้ไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์