Abstract:
งานวิจัยนี้ได้นําแบคทีเรียกรดแลคติกจํานวน 20 ไอโซเลตที่แยกได้จากโรงงานผลิตเอทานอล ที่ใช่กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบซึ่งจัดจําแนกสปีชีส์ด้วยวิธีการวิเคราะห์ยีน 16S rRNA ได้เป้น Lactobacillus plantarum, Lactobacillus farraginis และ Lactobacillus rhamnosus และ Lactobacillus sp. มาทดสอบหาค่า Minimum Inhibitory Concentration (MIC) ต่อยาปฏิชีวนะ 2 ชนิด ได้แก้ Kamoran และ Erythromycin และต่อสารเคมี 1 ชนิด ได้แก่ Hydrogen peroxide (H2O2) โดยวิธี Macrobroth dilution พบว่าแบคทีเรียทั้ง 20 ไอโซเลตมีค่า MIC ต่อยา Kamoran >100 ppm มีค่า MIC ต่อยา Erythromycin ระหว่าง <0.1 ถึง >50 ppm และมีค่า MIC ต่อ H2O2 ระหว่าง <1 ถึง >400 ppm เมื่อทําการทดสอบการยับยั้งแบคทีเรียกรดแลคติกผสมโดยสาร ทดสอบแต่ละชนิดในสภาวะการหมักเอทานอลจําลองที่ใช้กากน้ําตาลเป็นวัตถุดิบพบว่าสารแต่ละชนิด มีผลยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียกรดแลคติกผสมได้ แต่เมื่อเติมยา Kamoran ที่ความเข้มข้น 5 ppm ในกากน้ําตาลที่มีเชื้อแบคทีเรียกรดแลคติกผสมไม่ทําให้ยีสต์ผลิตเอทานอลได้เพิ่มขึ้น การทดสอบความสามารถในการสร้างไบโอฟอล์มบนแผ่นเหล็กกล้าปลอดสนิมชนิด 304 ของแบคทีเรีย กรดแลคติกแต่ละไอโซเลตในกากน้ําตาล หาปริมาณไบโอฟิมด้วยวิธี viable plate count
พบว่า 11 ใน 20 ไอโซเลตสร้างไบโอฟิล์มได้เมื่อบ่มนาน 48 ชั่วโมง โดยความสามารถในการสร้างไบโอฟิล์ม แตกต่างกันตามสปีชีส์และสายพันธุ์ของแบคทีเรีย นอกจากนั้นยังพบว่าแบคทีเรียกรดแลคติกผสม สร้างไบโอฟิล์มร่วมกับยีสต์บนแผ่นเหล็กกล้าปลอดสนิมในสภาวะการหมักเอทานอลจําลองได้โดย ความหนาแน่นของไบโอฟิล์มเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการบ่มเมื่อตรวจสอบด้วยวิธี viable plate count และจากกล่องอิเลคตรอนแบบส่องกราด