Graduate School of Commerce
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4773
วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์
2024-03-28T13:37:40Z
-
การบริหารจัดการปัญหาและอุปสรรคในการทำงานภายในคลังสินค้าของบริษัทฮาซเคม โลจิสจิกส์ แมเนจเมนท์ จำกัด
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/8797
การบริหารจัดการปัญหาและอุปสรรคในการทำงานภายในคลังสินค้าของบริษัทฮาซเคม โลจิสจิกส์ แมเนจเมนท์ จำกัด
พรคม ภูศิวานันท์
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยโดยใช้การสังเกตการณ์มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการบริหารจัดการปัญหาและอุปสรรคในการทำงานภายในคลังสินค้า บริษัท ฮาซเคม โลจิสติกส์ แมเนจเมนท์ จำกัด 2) เสนอแนวทางในการแก้ไขการบริหารจัดการปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ภายในคลังสินค้า บริษัท ฮาซเคม โลจิสติกส์แมเนจเมนท์ จำกัด การวิจัยครั้งนี้ครอบคลุมเนื้อหาจากผู้ให้ข้อมูล คือ พนักงานฝ่ายบริการลูกค้าและพนักงานฝ่ายคลังสินค้าของบริษัท ฮาซเคม โลจิสติกส์ แมเนจเมนท์ จำกัด จำนวน 8 คน โดยใช้การสังเกตแบบมีส่วนร่วม และและการสัมภาษณ์เชิงลึกโดยการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาตามทฤษฎี การเรียนรู้ของ Bloom et al., (1956) พบว่า 1) ด้านทักษะพิสัยปัญหาที่เกิดขึ้น คือ มีความผิดพลาดในการส่งคำสั่งงานที่ไม่ครบถ้วน และมีความล่าช้าเกิดขึ้นรวมไปถึงพนักงานมีความสามารถในการใช้ทักษะในการสื่อสารที่ไม่เหมือนกัน ทำให้พนักงานเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่ตนเองถนัด ทำให้ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ทางบริษัทได้วางไว้ 2) ด้านพุทธิพิสัย คือ ปัญหาด้านกระบวนการทำงาน และการถ่ายทอดคำสั่ง ยังไม่มีข้อกำหนดในการปฏิบัติงานร่วมกันของฝ่ายบริการลูกค้าและฝ่ายคลังสินค้าที่จะต้องปฏิบัติในเวลาใกล้เลิกงานอย่างชัดเจน 3) ด้านเจตพิสัย คือ ขาดการร่วมมือกันในการทำงานของแต่ละฝ่าย พนักงานฝ่ายคลังสินค้าและฝ่ายบริการลูกค้านั้นขาดการปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันรวมไปถึงขาดความเข้าใจในลักษณะการทำงานของแต่ละฝ่าย ซึ่งส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในการปฏิบัติงานและส่งผลเสียโดยรวมต่อบริษัท ทั้งนี้แนวทางการจัดการในการทำงานภายในคลังสินค้า คือ ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องควรร่วมกันให้ทุกฝ่ายช่วยออกความคิดเห็นและหาข้อตกลงร่วมกันในการกำหนดแผนการการทำงาน เพื่อกำหนดลกัษณะการทำงานในขณะที่ใกล้เวลาเลิกงาน อีกทั้งควรออกกฎข้อบังคับและขั้นตอนใน การปฏิบัติงานอย่างชัดเจนให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าคอยตรวจสอบการส่งคำสั่งย้อนหลัง เพื่อเป็นการป้องกันข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน รวมไปถึง ควรจัดกิจกรรมเพื่อให้พนักงานทั้งสองฝ่ายได้มาพบปะพูดคุยกัน เช่น การจัดกิจกรรมแข่งกีฬา หรืองานเลี้ยงสรรสรรค์เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้มาพบปะและพดูคุยกัน เพื่อลดปัญหาการแบ่งกลุ่มในการทำงาน
งานนิพนธ์ (บธ.ม.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561
2561-01-01T00:00:00Z
-
ยุทธศาสตร์ในการบริหารงานที่เหมาะสมของบริษัท เบลเมกส์ไทย จำกัด
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/8685
ยุทธศาสตร์ในการบริหารงานที่เหมาะสมของบริษัท เบลเมกส์ไทย จำกัด
ชุติมา วูวงษ์
การวิจัยเรื่องยุทธศาสตร์ในการบริหารงานที่เหมาะสมของ บจก. เบลเมกส์ไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์สภาพแวดล้อมปัจจุบันภายใต้กรอบแนวคิด (SWOT Analysis) และเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการบริหารงานที่เหมาะสมของ บจก. เบลเมกส์ไทย โดยการจัดทำ TOWS Matrix เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสนทนากลุ่มและสัมภาษณ์เชิงลึก ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพแวดล้อมปัจจุบัน ทั้ง 4 ด้าน 1) จุดแข็ง มีช่องทางประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย, ตำแหน่งร้านตรงตามกลุ่มเป้าหมาย, มีการหา Supplier รายใหม่ ๆ อยู่เสมอ, มีช่องทางการจัดจำหน่ายมาก, มีการสนับสนุนให้เกิดความคิดสร้างสรรค์, มีการสื่อสารระหว่างหน่วยงานภายในองค์การทั่วถึง, พนักงานเชี่ยวชาญการออกแบบผลิตภัณฑ์, มีการกระจายศูนย์บริการลูกค้า, มีร้านค้าตามโรงพยาบาล, มีการส่งเสริมพัฒนาความรู้บุคลากร 2) จุดอ่อน แบ่งผู้รับผิดชอบสินค้าไม่ชัดเจน, สินค้าใหม่ ๆ ออกมาช้า, การจัดโปรโมชั่นไม่ต่อเนื่อง ช้า, สวัสดิการพนักงานน้อย ทำให้เกิดการลาออก, ขาดบุคลากรชำนาญเฉพาะทาง, สภาพแวดล้อมในการทำงานแออัด, ชั้นวางสินค้าไม่เหมาะสมกับสินค้า, ทำสื่อ Online ไม่ต่อเนื่อง, ขาดการพัฒนาระบบการทำงาน, เก็บข้อมูลลูกค้ายังไม่ดีพอ 3) โอกาส เพดานภาษีต่ำ, ความหลากหลายของสินค้า, ประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น, คนส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพ, อัตราแลกเปลี่ยนไม่สูงมาก, การนำเข้ามีความซับซ้อน, คู่แข่ง ให้บริการช้า, อัตราดอกเบี้ยต่ำ, ร่วมลงทุนกับคู่ค้า, รัฐบาลสนับสนุนด้านนวัตกรรม 4) อุปสรรค ปริมาณขั้นต่ำในการสั่งสินค้าสูง, ผู้ผลิตขายแพง, คู่แข่งขายราคาถูก, สินค้าบางประเภทจะมีผู้นำตลาด, ค่าแรงขั้นต่ำสูง, ผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นรายได้น้อยลง, ลูกค้ามีอำนาจในการต่อรองราคาสูง, สินค้าที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชันเป็นที่นิยม, เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็ว, ข้อจำกัดในการผลิต 2. ยุทธศาสตร์ในการบริหารงานที่เหมาะสมของบริษัท เบลเมกส์ไทย จำกัด ควรที่จะกำหนดวิสัยทัศน์ “ก้าวสู่ความเป็นผู้นำ ด้านนวัตกรรมดูแลสุขภาพครบวงจร ให้บริการรวดเร็ว ประทับใจ” กำหนดพันธกิจ, เป้าหมายวัตถุประสงค์ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์กำหนดค่านิยมขององค์การ B: Beneficial, E: Extensive, L: Liberal, M: Ministration, E: Effervescent, X: Cross functional team และกำหนดยุทธศาสตร์ขององค์การโดยมุ่งเน้นการเจริญเติบโตระดับองค์การ (Corporate growth strategies) และกลยุทธ์ระดับธุรกิจ(Business strategy) ที่มุ่งเน้นการเป็นผู้นำทางด้านราคาต้นทุน, มุ่งเน้นความแตกต่างและประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
งานนิพนธ์ (บธ.ม.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561
2561-01-01T00:00:00Z
-
กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาดในมุมมองของลูกค้า (7C's) และคุณภาพการบริการที่มีผลต่อการตั้งใจซื้อซ้ำ กรณีศึกษา ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม 8 ในจังหวัดชลบุรี
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/8686
กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาดในมุมมองของลูกค้า (7C's) และคุณภาพการบริการที่มีผลต่อการตั้งใจซื้อซ้ำ กรณีศึกษา ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม 8 ในจังหวัดชลบุรี
นภสร เหลืองอ่อน
การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการตั้งใจซื้อซ้ำของลูกค้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม 8 ในจังหวัดชลบุรีแตกต่างกัน ตามลักษณะประชากรศาสตร์ 2) เพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาดในมุมมองของลูกค้าส่งผลต่อการตั้งใจซื้อซ้ำของลุกค้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม 8 ในจังหวัดชลบุรี 3) เพื่อศึกษาคุณภาพการบริการของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม 8 ในจังหวัดชลบุรีส่งผลต่อการ ตั้งใจซื้อซ้ำของลูกค้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม 8 ในจังหวัดชลบุรีประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ลูกค้าที่มารับประทานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม 8 จำนวน 400 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากนั้นผู้วิจัยได้นำข้อมูลไปทำการประมวลผลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS (Statistical package for the social sciences) ซึ่งสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ร้อยละค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และส่วนการทดสอบสมมติฐานนั้นใช้การพิสูจน์ความแตกต่างแบบ One-way ANOVA รวมทั้งการวิเคราะห์ความถดถอยของตัวแปรตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป Multiple regression หาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านต่าง ๆ การศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 30-39 ปี การศึกษามีระดับต่ำ กว่าปริญญาตรีอาชีพมีอาชีพธุรกิจส่วนตัว/ค้าขายรายได้มีรายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนมากที่สุด 25,000 บาทขึ้นไป และสถานภาพมีสถานภาพโสด ผลการวิเคราะห์พบว่า 1) ปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ ไม่มีผลต่อการตั้งใจซื้อซ้ำของลูกค้าร้านก๋วยเต๋ยวเรือปทุม 8 ในจังหวัดชลบุรี 2) กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาดในมุมของลูกค้ามีผลต่อการตั้งใจซื้อซ้ำของลูกค้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม 8 ใน จังหวัดชลบุรี 3) คุณภาพการให้บริการมีผลต่อการตั้งใจซื้อซ้ำของลูกค้าร้านก๋วยเตี๋ยวเรือปทุม 8 ในจังหวัดชลบุรีอย่างมีนัยสำคัญที่ 0.05
งานนิพนธ์ (บธ.ม.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561
2561-01-01T00:00:00Z
-
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของแผนการพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี เฉพาะด้านการมีส่วมร่วมของประชาชน กรณีศึกษาเทศบาลตำบลหลักห้า จังหวัดสมุทรสาคร
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/8684
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของแผนการพัฒนาท้องถิ่นสี่ปี เฉพาะด้านการมีส่วมร่วมของประชาชน กรณีศึกษาเทศบาลตำบลหลักห้า จังหวัดสมุทรสาคร
ชิษณุพงศ์ สถามิตร
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำการศึกษา 1) เพื่อศึกษาความสำเร็จของแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปีของเทศบาลตำบลหลักห้าจังหวัดสมุทรสาคร 2) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนที่มีผลต่อแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปีของเทศบาลตำบลหลักห้า จังหวัดสมุทรสาคร โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลตำบลหลักห้า จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 400 คน ของการเลือกจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 41,411 คน โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถามสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่การวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุแบบขั้นตอน (Multiple linear regression analysis) ผลการวิจัยพบว่าความสำเร็จของแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปีของเทศบาลตำบลหลักห้า จังหวัดสมุทรสาคร พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมากโดยด้านที่มีระดับมากที่สุด คือการพัฒนาเมืองและการบริหารงาน รองลงมาคือการพัฒนาการศึกษาศาสนาศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น รองลงมาคือการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองลงมาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รองลงมาคือการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิต และน้อยที่สุด คือการพัฒนาเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ตามลำดับ และผลการวิจัยในเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนที่มีต่อแผนพัฒนาท้องถิ่นสี่ปีพบว่า ในภาพรวมอยู่ในมากโดยด้านที่มีระดับมากที่สุด คือ ด้านการมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์รองลงมาคือ ด้านการมีส่วนร่วมในการวางแผน ด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน ด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผลและน้อยที่สุด คือ ด้านการมีส่วนร่วมในการคิด และตัดสินใจ ตามลำดับ
งานนิพนธ์ (บธ.ม.)--มหาวิทยาลัยบูรพา, 2561
2561-01-01T00:00:00Z