บทความวิชาการ (Journal Articles)
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4745
2024-03-28T08:59:02Z
2024-03-28T08:59:02Z
การศึกษาเปรียบเทียบเบื้องต้นเกี่ยวกับสัณฐานวิทยาของเปลือก แรดูลา และกายวิภาคระบบสืบพันธุ์ของหอยทากจิ๋ว สกุล Gyliotrachela Tomlin, 1930 และ สกุล Anauchen Pilsbry, 1917 ในภาคตะวันออกของประเทศไทย
อรจิรา แสนกมล
นภดล วิบูลพืช
ศศิชา เตชะมา
ปิยาพร หมื่นฤทธิ์
กิตติ ตันเมืองปัก
พงษ์รัตน์ ดำรงโรจน์วัฒนา
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4699
2022-09-21T06:59:57Z
2565-01-01T00:00:00Z
การศึกษาเปรียบเทียบเบื้องต้นเกี่ยวกับสัณฐานวิทยาของเปลือก แรดูลา และกายวิภาคระบบสืบพันธุ์ของหอยทากจิ๋ว สกุล Gyliotrachela Tomlin, 1930 และ สกุล Anauchen Pilsbry, 1917 ในภาคตะวันออกของประเทศไทย
อรจิรา แสนกมล; นภดล วิบูลพืช; ศศิชา เตชะมา; ปิยาพร หมื่นฤทธิ์; กิตติ ตันเมืองปัก; พงษ์รัตน์ ดำรงโรจน์วัฒนา
การศึกษาลักษณะสัณฐานวิทยาของเปลือก แรดูลาและลักษณะทางกายวิภาคของระบบสืบพันธุ์ ของหอยทากจิ๋ว 2 สกุล 2 ชนิด ได้แก่ Gyliotrachela diarmaidi และ Anauchen srakeoensis เพื่อเป็ นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการจัดจำแนกทางอนุกรมวิธาน ผลการศึกษาพบว่าททั้งหอยทากจิ๋วทั ้ง 2 สกุลนี ้มีรูปแบบของแรดูลาเป็น polyglossate เหมือนกัน แต่มีสัณฐานวิทยาของเปลือกและลักษณะกายวิภาคระบบสืบพันธุ์ที่แตกต่างกัน โดย G. diarmaidi จะพบฟังแองกูลาที่บริเวณช่องปากเปลือก ในขณะที่ A. srakeoensis จะไม่พบฟันแองกูลาที่บริเวณช่องปากเปลือก
2565-01-01T00:00:00Z
ระดับความเป็นพิษของสารกำจัดวัชพืช 2,4-D ไดเมทิลแอมโมเนียมในปลานิล และการตรวจสอบการแสดงออกของอะซิทิลโคลีนเอสเทอเรส (ตัวชี้วัดทางชีวภาพ) เพื่อบ่งชี้การรับสัมผัสในระดับความเข้มข้นที่ไม่ก่อให้เกิดการตาย
ปราง กาญจนสาร
ไชยวัตน์ นวลขาว
สำเนาว์ เสาวกูล
จักรพันธ์ นาน่วม
พอจิต นันทนาวัฒน์
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4697
2022-09-23T07:11:54Z
2565-01-01T00:00:00Z
ระดับความเป็นพิษของสารกำจัดวัชพืช 2,4-D ไดเมทิลแอมโมเนียมในปลานิล และการตรวจสอบการแสดงออกของอะซิทิลโคลีนเอสเทอเรส (ตัวชี้วัดทางชีวภาพ) เพื่อบ่งชี้การรับสัมผัสในระดับความเข้มข้นที่ไม่ก่อให้เกิดการตาย
ปราง กาญจนสาร; ไชยวัตน์ นวลขาว; สำเนาว์ เสาวกูล; จักรพันธ์ นาน่วม; พอจิต นันทนาวัฒน์
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความเป็นพิษของสารกำจัดวัชพืช 2, 4-D ไดเมทิลแอมโมเนียมในปลานิลและการตรวจสอบการแสดงออกของอะซิทิลโคลีนเอสเทอเรส (ตัวชี้วัดทางชีวภาพ) เพื่อบ่งชี้การรับสัมผัสในระดับความเข้มข้นที่ไม่ก่อให้เกิดการตายในระดับห้องปฏิบัติการเพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการตรวจสอบการปนเปื้อนของสารกำจัดวัชพืช 2, 4-D ไดเมทิลแอมโมเนียมในสิ่งแวดล้อมทางน้ำต่อไป สำหรับความเป็นพิษของสารดังกล่าวที่เกิดขึ้นในปลานิลจะประเมินจากค่าอัตราการตายสะสมของปลานิล ซึ่งพบว่าจะเพิ่มมากขึ้นตามระดับความเข้มข้นและระยะเวลาที่ได้รับสัมผัส หลังจากที่
วิเคราะห์ค่าความเป็นพิษที่ก่อให้เกิดการตายแล้ว ในการศึกษาครั้งนี้นี้ได้ศึกษาความเป็นพิษของสารในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดการตายในปลานิลด้วยคือระดับความเข้มข้น 5 µl/L ปลานิลที่ได้รับสัมผัสสารในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดการตายมีการเปลี่ยนแปลงทั้งพฤติกรรมและสัณฐานวิทยาต่างจากกลุ่มควบคุมโดยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ได้รับสัมผัส อะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสที่ตรวจสอบได้จากเนื้อเยื่อสมอง เหงือกและกล้ามเนื้อมีน้ำหนักโมเลกุลขนาด 71 กิโลดัลตัน (kDa) โดยการแสดงออกของอะซิทิลโคลีน
เอสเทอเรสในเนื้อเยื่อทุกชนิดจะลดลงเมื่อได้รับสัมผัสสารเป็นเวลานานขึ้น เมื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อเหงือกพบว่า เกิดการเพิ่มจำนวนของเซลล์ (hyperplasia), การยกตัวชองเยื่อบุผิว (epithelial lifting), การรวมตัวกันบางส่วนของเนื้อเยื่อเหงือก (partial fusion of lamellae), การบวมและการเรียงตัวกันแบบผิดปกติของเนื้อเยื่อเหงือก (edema and lamellae disorganization) และการคั่งของเลือด (blood congestion) ในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อพบว่าจะเกิดอาการ การขยายตัวของเส้นใย
กล้ามเนื้อ (dilation of muscle fiber), การแยกตัวของกล้ามเนื้อ (spiting of muscle) และการคั่งของเลือด (blood congestion) โดยการเปลี่ยนแปลงจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อปลานิลได้รับสัมผัสสารเป็นระยะเวลานาน จากข้อมูลทั้งหมดนี้จึงมีแนวโน้มที่จะประยุกต์ใช้ปลานิลตัวชี้วัด (bioindicator) การปนเปื้อนของสารกำจัดวัชพืช 2, 4-D ไดเมทิลแอมโมเนียมที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำได้ และยิ่งไปกว่านั้นอะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสสามารถใช้เป็นตัวชี้วัดทางชีวภาพในการรับสัมผัสของสารได้
2565-01-01T00:00:00Z
The pigment production from Monascus sp. U6V1, a Non-citrinin producing strain, in 5-L stirred tank fermentor
Somchai Krairak
Nisa Krairak
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4695
2022-09-21T09:25:38Z
2565-01-01T00:00:00Z
The pigment production from Monascus sp. U6V1, a Non-citrinin producing strain, in 5-L stirred tank fermentor
Somchai Krairak; Nisa Krairak
Monascussp. U6V1 เจริญและให้การผลิตสีได้ดีที่สุดในอาหาร Cassava starch peptone medium
19.21.08 กรัมต่อลิตร และ 39.482.42 หน่วย ตามล าดับ อย่างมีนัยส าคัญ โดยเลี้ยงเชื้อบนเครื่องเขย่าความเร็ว 200
รอบต่อนาที 30องศาเซลเซียส นาน 7 วัน เมื่อน ามาเลี้ยงเชื้อด้วยถังหมักแบบกวนขนาด 5 ลิตร เพื่อศึกษาอัตราการ
กวน และการให้อากาศที่เหมาะสมต่อการผลิตสี พบว่าการเลี้ยงเชื้อที่ความเร็วการกวน 500รอบต่อนาที และอัตราการให้
อากาศ 1.00ลิตรอากาศต่อลิตรอาหารต่อนาที ให้การสร้างสี ผลได้สีและอัตราการผลิตผลิตภัณฑ์จ าเพาะสูงสุดอย่างมี
นัยส าคัญ เท่ากับ 40.171.45 หน่วย 0.686 หน่วยต่อกรัม และ 0.143 หน่วยต่อกรัมต่อชั่วโมง ตามล าดับ เมื่อน ามา
ศึกษาอัตราการให้อากาศที่เหมาะสม พบว่าการให้อากาศ 0.75และ 1.00 ลิตรอากาศต่อลิตรอาหารต่อนาที ให้การผลิตสี
และอัตราการผลิตผลิตภัณฑ์จ าเพาะสูงสุดไม่แตกต่างอย่างมีนัยส าคัญ เท่ากับ 36.041.0440.171.45 หน่วย และ
0.145 และ 0.143 หน่วยต่อกรัมต่อชั่วโมง ตามล าดับ แรงเฉือน และสภาวะขาดออกซิเจนในระหว่างการเจริญเพิ่ม
จ านวนส่งผลกระทบต่อการผลิตสีในระยะคงที่ น าทุกตัวอย่างที่ได้จากการเลี้ยงเชื้อเมื่อสิ้นสุดการทดลอง มาวิเคราะห์
ปริมาณซิตรินิน ผลการตรวจสอบไม่พบปริมาณซิตรินินในตัวอย่าง
2565-01-01T00:00:00Z
การศึกษาแหล่งทำประมงปลาทูในอ่าวไทย และความสัมพันธ์ระหว่างแหล่งทำประมงกับปัจจัยทางสมุทรศาสตร์จากข้อมูลระบบติดตามเรือโดยใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ
สุภัทรา เทพรส
อนุกูล บูรณประทีปรัตน์
ดุษฎี หลีนวรัตน์
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4694
2022-09-23T01:02:28Z
2565-01-01T00:00:00Z
การศึกษาแหล่งทำประมงปลาทูในอ่าวไทย และความสัมพันธ์ระหว่างแหล่งทำประมงกับปัจจัยทางสมุทรศาสตร์จากข้อมูลระบบติดตามเรือโดยใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ
สุภัทรา เทพรส; อนุกูล บูรณประทีปรัตน์; ดุษฎี หลีนวรัตน์
งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาแหล่งทำประมงปลาทูในอ่าวไทยโดยใช้ข้อมูลจากระบบติดตามเรือและสมุดบันทึกการทำการประมงจากเรือประมงพาณิชย์อวนล้อมจับที่ออกทำการประมงพื้นที่อ่าวไทยในปี 2562 และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแหล่งทำประมงปลาทูกับคลอโรฟิลล์-เอ และอุณหภูมิที่ผิวน้ำทะเลจากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม MODIS-Aqua โดยใช้แบบจำลอง Generalized Additive Model (GAM) ผลการศึกษาพบว่าแหล่งทำประมงปลาทูเปลี่ยนแปลงไปตามลมมรสุม ในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ฤดูฝน) แหล่งทำประมงจะอยู่ในบริเวณตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์จนถึงบริเวณอ่าวไทยตอนบน ในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ฤดูหนาว) แหล่งทำประมงจะอยู่ในบริเวณอ่าวไทยตอนบน เรื่อยลงไปยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ในช่วงเปลี่ยนจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็ นตะวันตกเฉียงใต้ (ฤดูร้อน) พบการทำประมงมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากการวิเคราะห์ด้วยแบบจำลอง GAM พบว่าคลอโรฟิลล์-เอ และอุณหภูมิที่ผิวน้ำทะเลมีความสัมพันธ์กับการทำประมงปลาทู (p < 0.001) ในช่วงคลอโรฟิฃลล์-เอที่ 0.2-0.5 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และอุณหภูมิที่ผิวน้ำทะเลที่ 29.5-31.0 องศาเซลเซียส และพบว่าพื้นที่ทำการประมงในช่วงเวลาต่าง ๆ มีความสอดคล้องกับลักษณะการไหลเวียนกระแสน้ำตามฤดูกาลในอ่าวไทย
2565-01-01T00:00:00Z