กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4120
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorรุจา ภู่ไพบูลย์
dc.contributor.authorวรรณี เดียวอิศเรศ
dc.contributor.authorเดชาวุธ นิตยสุทธิ
dc.contributor.authorดารุณี จงอุดมการณ์
dc.contributor.authorระพีพรรณ คำหอม
dc.contributor.authorจิตตินันท์ เดชะคุปต์
dc.contributor.authorจินตนา วัชรสินธุ์
dc.contributor.authorถวัลย์ เนียมทรัพย์
dc.contributor.authorสาวิตรี ทยานศิลป์
dc.contributor.authorทิพาภรณ์ โพธิ์ถวิล
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะพยาบาลศาสตร์
dc.date.accessioned2021-06-14T01:08:48Z
dc.date.available2021-06-14T01:08:48Z
dc.date.issued2563
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4120
dc.description.abstractครอบครัวไทยมีการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อครอบครัว ทั้งด้านโครงสร้างและความเป็นอยู่ดีมีสุขของครอบครัว งานวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบวัดความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเครื่องมือสำหรับการสำรวจความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทย ตามวงจรชีวิตครอบครัว แบ่งการดำเนินการวิจัยออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรกเป็นการสร้างแบบวัด โดยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพเพื่อระบุคุณลักษณะของความอยู่ดีมีสุขของครอบครัว เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยกระบวนการสนทนากลุ่มจากตัวแทนครอบครัว (n = 310 คน) ใน 5 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ แบ่งกลุ่มการสนทนาออกเป็นกลุ่มชายและกลุ่มหญิง กลุ่มละ 6-10 คน รวมจำนวน 40 กลุ่ม ผลการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาพบว่าความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวตามการรับรู้ของครอบครัว ประกอบด้วยองค์ประกอบ 9 ด้าน คือ 1. ด้านสัมพันธภาพ 2. ด้านบทบาทหน้าที่ 3. ด้านเศรษฐกิจ 4. ด้านการดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง 5. ด้านความร่วมใจและปลอดภัยในชุมชน 6. ด้านการพัฒนา ทางจิตวิญญาณ 7. ด้านการดูแลสุขภาพ 8. ด้านการศึกษา และ 9. ด้านความมั่นคงและการพึ่งพา จากนั้นนำข้อมูลเชิงคุณภาพที่สรุปได้มาสร้างแบบวัดครอบครัวอยู่ดีมีสุข (ฉบับร่าง) จำนวน 85 ข้อ เป็นคำถามให้ตอบเป็นมาตรวัดแบบลิเคิร์ตสเกล 5 ระดับ ระยะที่สอง เป็นการทดสอบคุณภาพของแบบวัด โดยตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านครอบครัวจำนวน 5 ท่าน หลังจากนั้นนำไปทดสอบความเชื่อมั่นของแบบวัด ความตรงเชิงโครงสร้าง โดยการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจกับกลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้แทนของครอบครัว จำนวน 351 ครอบครัว ในเขตกรุงเทพมหานคร ผลจากการวิจัย พบว่า ได้แบบวัดครอบครัวอยู่ดีมีสุข จำนวน 9 องค์ประกอบ 75 ข้อคำถาม โดยการกระจาย ของตัวแปรในแต่ละปัจจัยเป็นไปตามที่การจัดกลุ่ม 9 องค์ประกอบที่ได้กำหนดไว้ และแบบวัดมีความเชื่อมั่นแบบสอดคล้องภายในเท่ากับ .952 และความเชื่อมั่นรายองค์ประกอบมีค่าอยู่ระหว่าง .703 - .925 ทั้ง 9 องค์ประกอบสามารถอธิบายความแปรปรวน ได้ร้อยละ 55.66th_TH
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectสุขภาวะth_TH
dc.subjectครอบครัว -- ไทยth_TH
dc.subjectเครื่องชี้ภาวะสุขภาพ -- ไทยth_TH
dc.subjectสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์th_TH
dc.titleการพัฒนาแบบวัดความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทยth_TH
dc.title.alternativeThe development of Thai Family Well-being (FWB) scaleen
dc.typeArticleth_TH
dc.issue1th_TH
dc.volume28th_TH
dc.year2563th_TH
dc.description.abstractalternativeThai families are in amidst of changes that affect both family structures and their well-being. The objective of this study was to development of Family Well-being (FWB) scale for Thai families which part of tool development for FWB survey according to family life cycle. The process consisted of two phases. The first phase was scale development, using qualitative research method to identify the attributes of FWB. Focus group discussion was performed by asking about the meaning and perception of FWB among family representatives within 5 regions, including Bangkok Metropolitan, the northern, the central, the northeastern, and the southern regions. The 310 families were divided into 6-10 subjects per group according to gender (male and female. The findings from content analysis showed 9 components of FWB which are 1) Relationship, 2) Role, 3) Economic, 4) Sufficiency economy, 5) Community sharing and safety, 6) Spiritual development, 7) Health, 8) Education, and 9) Self-sufficiency and dependency. The draft FWB scale was developed based on qualitative results which consisted of 85 items with 5 levels of Likert scale response. Second phase was the evaluation of the psychometric properties of the scale. The draft FWB scale was reviewed by 5 experts in family research. Then it was pilot tested among 351 families in Bangkok area for construct validity using exploratory factor analysis and reliability. The results of exploratory factor analysis revealed that the final FWB scale have 9 components with 75 items as predetermined. The FWB scale and its subscales have shown good internal consistency reliability of .952 and between .703 - .925. The total variance accounted for was 55.66%.en
dc.journalวารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.page26-37.th_TH
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:บทความวิชาการ (Journal Articles)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
26-37.pdf206.41 kBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น