กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1986
ระเบียนเมทาดาทาแบบเต็ม
ฟิลด์ DC ค่าภาษา
dc.contributor.authorวรรณวรางค์ รัตนานิคม
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยบูรพา. คณะวิศวกรรมศาสตร์
dc.date.accessioned2019-03-25T09:10:02Z
dc.date.available2019-03-25T09:10:02Z
dc.date.issued2559
dc.identifier.urihttp://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/1986
dc.description.abstractปัจจุบันการปรับปรุงคุณภาพดินโดยสารผสมเพิ่มเพื่อใช้ในการก่อสร้างงานทางเป็นวิธีการที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตามการปรับปรุงคุณภาพดินให้มีประสิทธิภาพสูงสุดมีความจำเป็นต้องเลือกใช้สารผสมเพิ่มที่เหมาะสม เนื่องจากดินต่างชนิดกันมีกลไกการกาเนิดดินและแร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบที่แตกต่างกัน อีกทั้งอยู่ในลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศที่ต่างกัน ย่อมตอบสนองต่อปฏิกริยาเคมีมากน้อยแตกต่างกันด้วย เช่น โครงสร้างทางที่มีดินตะกอนบริเวณชายฝั่งทะเลเป็นวัสดุมักได้รับอิทธิพลของซัลเฟตอิออนและคลอไรด์ อิออน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทาให้ดินบวมตัวสูงเนื่องจากสารประกอบยิปซัมและแคลเซียมซัลโฟอะลูมิเนตที่เกิดจากปฏิกริยาเคมี เป็นต้น ดังนั้นงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของแมกนีเซียมซัลเฟตต่อกาลังรับแรงอัดแกนเดียวของดินตะกอนทะเลที่ถูกปรับปรุงคุณภาพด้วยปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภทที่ 1 โดย (i) แปรผันปริมาณความเข้มข้นของแมกนีเซียมซัลเฟตต่อดินตะกอนทะเลโดยน้ำหนักแห้ง คือ 0% 5% และ 10% (ii) แปรผันอัตราส่วนผสมซีเมนต์ต่อดินตะกอนทะเลโดยน้ำหนักแห้ง คือ 0% 2% 4% 6% และ 8% และ (iii) แปรผันระยะเวลาการบ่มตัวอย่างดินคือ 0 วัน 7 วัน 14 วัน และ 28 วัน ผลการศึกษาพบว่าปริมาณความเข้มข้นของแมกนีเซียมซัลเฟตที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้กำลังรับแรงอัดแกนเดียวของดินตะกอนทะเลที่ถูกปรับปรุงด้วยซีเมนต์ที่อัตราส่วนต่าง ๆ ลดลงตั้งแต่อายุบ่ม 7 วันขึ้นไป และอัตราการลดลงของ กำลังรับแรงอัดแกนเดียวมีแนวโน้มลดลงเมื่ออัตราส่วนผสมของซีเมนต์เพิ่มขึ้นth_TH
dc.description.sponsorshipโครงงานวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้ จากเงินอุดหนุนรัฐบาล (งบประมาณแผ่นดิน) ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2559en
dc.language.isothth_TH
dc.publisherคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectกำลังรับแรงอัดแกนเดียวth_TH
dc.subjectดินตะกอนทะเลth_TH
dc.subjectปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์th_TH
dc.subjectสาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัยth_TH
dc.subjectแมกนีเซียมซัลเฟตth_TH
dc.titleผลกระทบของแมกนีเซียมซัลเฟตต่อการปรับปรุงคุณภาพดินตะกอนทะเลที่ถูกขุดลอกด้วยซีเมนต์ เพื่อใช้เป็นวัสดุทางเลือกใหม่ในงานทางth_TH
dc.title.alternativeInfluence of magnesium sulfate on cement-marine dredged sediments stabilization as a new material resource for road constructionen
dc.typeResearchth_TH
dc.year2559
dc.description.abstractalternativeNowadays chemical stabilization is a popular technique to improve engineering characteristics of soils for road constructions. However, in order to obtain an efficient soil improvement, appropriate selection of chemicals is very important. It is because the difference in soil characteristics, such as soil type, soil formation, geography and climate, and soil compounds, can affect chemical reactions differently. For example, the influences of sulfate ion and chloride ion when using marine sediment can cause soil swelling due to gypsum and Calcium Sulfoaluminate from the chemical reaction. The objectives of this research were to study the effect of magnesium sulfate on dredged marine sediments stabilized with cement. The variables of interest were (i) concentrations of magnesium sulfate of 0%, 5% and 10%, (ii) Portland cement type I of 0%, 2%, 4%, 6%, and 8% of dry soil weight, and (iii) curing times of 0, 7, 14 and 28 days. The unconfined compressive strength was evaluated for all soil specimens. The results showed that increasing of magnesium sulfate concentration caused unconfined compressive strength to decrease from 7 days curing. Moreover, reduction rate of unconfined compressive strength tended to decrease when percent of cement increaseden
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:รายงานการวิจัย (Research Reports)

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม ขนาดรูปแบบ 
2563_085.pdf2.4 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น