DSpace Collection:
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4785
2024-03-29T10:39:13Z
-
การหล่อโลหะผสมสำหรับเครื่องประดับด้วยกระบวนการกึ่งของแข็ง
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4035
Title: การหล่อโลหะผสมสำหรับเครื่องประดับด้วยกระบวนการกึ่งของแข็ง
Authors: ณัฐพล ชมแสง; นุชธนา พูลทอง
Abstract: โลหะผสมเงินสเตอร์ลิง 93.5% โดยน้ำหนัก หล่อด้วยกระบวนการหล่อกึ่งของแข็งแบบร่างเทเพื่อปรับปรุงสมบัติเชิงกล โลหะเงินสเตอร์ลิงหล่อในเตาขดลวดเหนี่ยวน้ำที่อุณหภูมิ 1000 องศาเซลเซียส เทผ่านร่างเท มุมในการเทตั้งแต่ 30-60o ระยะเท 20-25 เซนติเมตร เพื่อศึกษาผลของมุมและระยะเทต่อโครงสร้างจุลภาค ความแข็ง และความต้านทานแรงดึงของโลหะเงินสเตอร์ลิง ตัวอย่างทดสอบด้วยเครื่องวัดความแข็งจุลภาคแบบวิคเกอร์ เครื่องทดสอบแรงดึงอเนกประสงค์ กล้องจุลทรรศน์แสง และ กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดที่ติดตังสเปคโตรมิเตอร์การกระจายตัวพลังงานรังสีเอ็กซ์ ความแข็งของตัวอย่างหลังหล่อด้วยกระบวนการกึ่งแข็งมีค่าประมาณ 63-78 HV ตัวอย่างที่มีค่าความแข็งสูงสุด ได้แก่ ตัวอย่างหล่อด้วยมุม 45o ระยะเท 20 เซนติเมตร ค่าต้านทานแรงดึงของตัวอย่างดังกล่าวมีค่าประมาณ 104-198 เมกะปาสคาล ตัวอย่างที่มีค่าความต้านทานสูงสุด ได้แก่ ตัวอย่างหล่อด้วยมุม 450 ระยะเท 25 เซนติเมตร โครงสร้างจุลภาคของตัวอย่างหลังหล่อประกอบด้วยเฟสอัลฟ่าปฐมภูมิ และ โครงสร้างยูเทคติก โดยโครงสราสร้างที่มีลักษณะเป็นทรงกลมและเดนไดรต์ที่สันเกิดขึ้นในตัวอย่างหลังหล่อนี้ ภาพ SEM แสดงให้เห็นเฟสอัลฟำที่มีเงินเป็นองค์ประกอบหลักและโครงสร้างยูเทคติกที่มีปริมาณทองแดงสูงขึ้น
Description: โครงการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้จากเงินอุดหนุนรัฐบาล (งบประมาณแผ่นดิน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557
2557-01-01T00:00:00Z
-
การพิสูจน์เอกลักษณ์พลอยแทนซาไนท์ที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อนโดยเคโมเมทริกซ์และเทคนิคสเปกโทรสโกปีเชิงโมเลกุลเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4031
Title: การพิสูจน์เอกลักษณ์พลอยแทนซาไนท์ที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อนโดยเคโมเมทริกซ์และเทคนิคสเปกโทรสโกปีเชิงโมเลกุลเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์
Authors: พิมพ์ทอง ทองนพคุณ; คเณศ วงษ์ระวี; เมธินี จามกระโทก; ปริญญา ชินดุษฏีกุล
Abstract: แทนซาไนท์ คือ อัญมณีที่มีชื่อเสียงมากชนิดหนึ่งในการค้าอัญมณี แทนซานท์มีสีน้ำเงินม่วงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นพลอยชนิดซอยไซท์ ประเภทแคลเซียมอะลูมิเนียมไฮดรอกโซโรซิลิเกตในกลุ่มอิพิโดท เนื่องจากแทนซาไนท์มีสีสวยและหายากในธรรมชาติ ดังนั้นแทนซาไนท์ส่วนใหญ่ที่พบในการค้าอัญมณีจะมาจากการปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อนหรือการเผามาจากซอยไซท์เพื่อปรับปรุงสีให้ได้สีน้ำเงินถึงม่วง ณ เวลานี การปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อนในซอยไซท์และแทนซาไนท์ยังไม่สามารถตรวจพบได้ วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี คือการจำแนกซอยไซท์ที่มาจากการเผาให้ได้สีน้ำเงินกับแทนซาไนท์ธรรมชาติด้วยการวิเคราะห์ลักษณะทางสเปกโทรสโกปีและการวิเคราะห์ด้วยเคโมเมทริกซ์
งานวิจัยนี ทำการปรับปรุงคุณภาพสีของแทนซาไนท์ธรรมชาติและซอยไซท์จากแทนซาเนียด้วยการเผาภายใต้สภาวะบรรยากาศที่อุณหภูมิ 400-700 องศาเซลเซียส สีของตัวอย่างซอยไซท์หลังเผาเปลี่ยนจากสีเหลืองอมน้ำตาลเป็นสีม่วงอมน้ำเงินภายใต้การเผาทุกอุณภูมิ การวิเคราะห์ตัวอย่างทั้งก่อนและหลังเผาจะวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือพื้นฐานในการวิเคราะห์อัญมณีและทำการเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงสีและความแตกต่างของสีด้วยการวัดสีระบบ CIELAB วิเคราะห์สาเหตุการเปลี่ยนสีและองค์ประกอบทางเคมีด้วยเทคนิคเอกซเรย์ฟลูออเรสเซนส์สเปกโทรสโกปีแบบกระจายพลังงาน ยูวีวิสิเบิลสเปกโทรสโกปี ฟรูเรียร์ทรานสฟอร์มอินฟราเรดสเปกโทรสโกปี ฟลูออเรสเซนส์สเปกโทรสโกปี และรามานสเปกโทรสโกปี ผลการเปลี่ยนสีของตัวอย่างและคุณสมบัติของสเปกตรัมเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงคุณภาพสีและการวิเคราะห์ตัวอย่างแทนซาไนท์ที่ผ่านการเผา รามานสเปกตรัมสามารถนำมาใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ด้วยเคโมเมทริกซ์ด้วยวิธี PCA ซึ่งให้ข้อมูลที่สัมพันธ์กับองค์ประกอบทางเคมีที่ใช้จำแนกความแตกต่างของซอยไซท์ที่ผ่านการเผาและแทนซาไนท์สีธรรมชาติได้
Description: โครงการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้ จากเงินอุดหนุนรัฐบาล (งบประมาณแผ่นดิน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559
2559-01-01T00:00:00Z
-
เครื่องประดับภายใต้แนวคิดจันทบุรี นครแห่งผลไม้
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3989
Title: เครื่องประดับภายใต้แนวคิดจันทบุรี นครแห่งผลไม้
Authors: อลงกรณ์ ประมวญทรัพย์
Abstract: จันทบุรีเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านผลไม้ จนมีสมญานามว่า “เมืองแห่งผลไม้” หรือ “นครแห่งผลไม้” ส่วนตำแหน่งราชาแห่งนครย่อมเป็นสิ่งใดไม่ได้ถ้าไม่ใช่ทุเรียนอันเป็น “ราชาแห่งผลไม้” ในความเลื่องลือถึงรสชาติ ที่ขจรขจายไปไกลถึงต่างแดนด้วยเป็นผลไม้ส่งออกที่สำคัญไม่ไช่แค่จันทบุรี แต่เป็นระดับประเทศ ทุเรียนที่ถือได้ว่าเป็นราชาเหนือราชาที่ครองตำแหน่งการส่งออกสูงสุด ได้แก่ ทุเรียนหมอนทอง ฉากหน้าที่เลื่องลือนั้นเป็นที่รู้จักอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ฉากหลังการผลิตทุเรียนจนเป็นที่เลื่องลือนั้นซับซ้อนกว่าที่เข้าใจ ชาวสวนทุเรียนคือกลไกที่สำคัญในการพัฒนาทุเรียนให้มีคุณภาพที่ดี เป็นผู้ขับเคลื่อนพลวัตที่สำคัญจนทำให้ทุเรียนได้ฉายาราชาแห่งผลไม้ ที่มีพัฒนาการจากตาดอกขนาดเล็กจนเป็นผลสมบูรณ์ออกสู่ท้องตลาด ผ่านเรื่องราวมากมายถ้าจะไล่เรียงคงได้หนังสือซักเล่มหนึ่ง การย่อความหมายสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ผ่านงานออกแบบเครื่องประดับ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย และน่าสนใจ ด้วยแนวคิดดังที่กล่าวมาจึงเป็นที่มาของการออกแบบเครื่องประดับในหัวข้อการสร้างสรรค์เครื่องประดับภายใต้แนวคิดจันทบุรี นครแห่งผลไม้
Description: ทุนวิจัยด้านงานสร้างสรรค์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ คณะอัญมณี มหาวิทยาลัยบูรพา ประจำปีงบประมาณ 2562
2562-01-01T00:00:00Z
-
การเคลือบฟิล์มบางอลูมินาด้วยเทคนิคแมกนีตรอนสปัตเตอริงเพื่อปรับปรุงคุณภาพอัญมณีเนื้ออ่อน
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3912
Title: การเคลือบฟิล์มบางอลูมินาด้วยเทคนิคแมกนีตรอนสปัตเตอริงเพื่อปรับปรุงคุณภาพอัญมณีเนื้ออ่อน
Authors: สายสมร นิยมสรวญ
Abstract: อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับจัดเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และยังเป็นสินค้าที่ทำรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งจัดเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจของประเทศที่สำคัญอันดับ 1 ใน 10 ของสินค้าส่งออก ปัจจุบันพลอยเนื้ออ่อนเป็นพลอยที่ตลาดให้ความนิยมเป็น
อย่างมาก แต่มักเกิดปัญหาในขณะทำการฝังซึ่งอาจเกิดรอยขูดขีดบนผิวพลอย
กระบวนการเคลือบฟิล์มบางอลูมินาบนผิวอัญมณีเนื้ออ่อน ด้วยเทคนิค อาร์เอฟ แมกนีตรอนสปัตเตอริง โดยการควบคุมเงื่อนไขในการเคลือบ ด้วยความดันก่อนสปัตเตอริง PB = 6.0 x 10-4
Pa
ความดันของอาร์กอน PAr = 6.0 x 10-1
Pa อัตราการไหลของก๊าซอาร์กอน Ar = 15 sccm ที่กำลังไฟ 50
วัตต์ สามารถเพิ่มความแข็งและความต้านทานการขูดขีดของพลอยเนื้ออ่อนได้
จากการศึกษาการเคลือบฟิล์มบางบนควอตซ์และอะพาไทต์ ด้วยเวลาที่ใช้ในการเคลือบ คือ 30 นาที 180 นาที และ 300 นาที ตามลำดับ พบว่าที่เวลาเคลือบที่นานขึ้นจะสามารถทำให้พลอยต้านทานรอยขูดขีดได้เพิ่มขึ้น เมื่อตรวจสอบความหนาและพื้นผิวของฟิล์มด้วยเครื่อง FE-SEM พบว่าเวลาการเคลือบที่มากขึ้นจะทำให้ความหนาของฟิล์มเพิ่มมากขึ้น และการตรวจสอบปริมาณของธาตุ ด้วยเครื่อง XRF พบว่าเวลาที่มากขึ้นจะทำให้ปริมาณธาตุของอลูมินาเพิ่มมากขึ้น แต่การตรวจสอบการวัดสีด้วยเครื่องยูวีวิสิเบิลสเป็คโตรโฟโตมิเตอร์ (UV – Vis NIR spectrophotometer) พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงสีเล็กน้อย โดยไม่พบการเปลี่ยนแปลงสีเมื่อสังเกตุด้วยตาเปล่า การศึกษาการเคลือบฟิล์มบางอลูมินาบนผิวพลอยเพอริดอตและอความารีน โดยการเปลี่ยนแปลงอัตราการไหลของแก๊สออกซิเจนต่ออาร์กอน เวลาที่ใช้ในการเคลือบ และการให้ความร้อนที่จะทำให้ฟิล์มบางอลูมินา มีความโปร่งแสงสูง มีการยึดเกาะบนผิวพลอยที่ดีมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นและทนต่อรอยขีดข่วน เมื่อนำไปทดสอบสมบัติทางแสงของฟิล์มด้วยเครื่องยูวี วิสสิเบิล สเปคโตรโฟโตมิเตอร์พบว่าจะได้ค่าการส่งผ่านแสงสูง ศึกษาปริมาณธาตุองค์ประกอบด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ฟลูออเรสเซนต์ พบว่ามีธาตุ
อลูมิเนียมออกไซด์และ ศึกษาโครงสร้างฟิล์มด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ดิฟแฟรคโตมิเตอร์พบพีคของอลูมินาที่ต่ำแหน่งมุม 45.79 องศา ซึ่งยืนยันได้ว่ามีฟิล์มบางอลูมินามีโครงสร้างผลึก โดยเมื่อวิเคราะห์ด้วยเทคนิคเอ็กซเรย์รีเฟล็กซ์ทิวิตี้พบว่าความหนาฟิล์มลดลงตามการเติมแก๊สออกซิเจน จากการทดสอบการการขูดขีดของฟิล์มด้วยเครื่องสแครชเทสเตอร์โดยใช้แรงสูงสุด 20 นิวตัน พบว่าพลอยที่มีการเคลือบฟิล์มบางอลูมินาสามารถทนรอยขูดขีดได้เพิ่มขึ้น โดยแรงที่ทำให้ฟิล์มอลูมินาบนผิวพลอยเพอริดอตและอความารีนหลุดลอกโดยสมบูรณ์อยู่ที่ประมาณ 6 และ 7 นิวตัน โครงงานนี้ได้ทำการผลิตเครื่องประดับจากควอตซ์ที่เคลือบฟิล์มบาง ด้วยเทคนิคอาร์เอฟ แมกนีตรอน สปัตเตอริง เครื่องประดับประกอบด้วยแหวน และจี้ ซึ่งสามารถนำมาสวมใส่ได้จริง
2562-01-01T00:00:00Z