DSpace Collection:
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4726
2024-03-28T12:36:06Z
2024-03-28T12:36:06Z
การพัฒนาระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ของภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
ดนิตา จันทร์ขาว
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/5630
2023-05-06T07:38:55Z
2565-01-01T00:00:00Z
Title: การพัฒนาระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ของภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
Authors: ดนิตา จันทร์ขาว
Abstract: งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ของภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และ 2) ประเมินความพึงพอใจผู้ใช้ระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์ กลุ่มตัวอย่าง คือ คณาจารย์และบุคลากรสายสนับสนุน ภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จานวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และแบบสัมภาษณ์ความพึงพอใจผู้ใช้ระบบ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content analysis) ผลการวิจัย พบว่า 1. ระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ของภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มีองค์ประกอบหลัก 2 ส่วน คือ 1) ส่วนของผู้ใช้งานระบบที่กำหนดให้เข้าถึงได้เฉพาะคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ ประกอบด้วยเมนูการเข้าสู่ระบบ การค้นหาเอกสาร การดาวน์โหลดไฟล์เอกสาร และการออกจากระบบ และ 2) ส่วนของผู้ดูแลระบบ มีลักษณะการทำงานเช่นเดียวกับส่วนของผู้ใช้งานระบบ แต่มีเมนูเพิ่มเติมไว้สาหรับการตั้งค่าและการจัดการระบบ โดยผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหน้าจอ แก้ไข เพิ่มเติม ลบ หรืออัพโหลดไฟล์เอกสารเข้าสู่ระบบและการกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งานระบบ
2. ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ของภาควิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา พบว่า โดยภาพรวมผู้ใช้งาน พึงพอใจกับการใช้งานระบบดังกล่าว เพราะระบบการจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์สามารถจัดเก็บเอกสารได้อย่างเป็นระบบ ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเอกสารและค้นหาเอกสารด้วยตนเองได้สะดวก รวดเร็ว และเข้าใช้งานระบบได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงลดการใช้กระดาษและประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อกระดาษของสำนักงาน
Description: โครงการวิจัยที่ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัย จากกองทุนวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยบูรพาประจาปี พ.ศ. 2564
2565-01-01T00:00:00Z
การศึกษาบุคลิกภาพของนิสิตปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
วิณี ชิดเชิดวงศ์
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4728
2022-08-30T06:08:24Z
2541-01-01T00:00:00Z
Title: การศึกษาบุคลิกภาพของนิสิตปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
Authors: วิณี ชิดเชิดวงศ์
2541-01-01T00:00:00Z
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสนุกสนานในการเรียนวิชาบาสเกตบอล : กรณีศึกษาชั้นเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
ระพีพัฒน์ เดือนเพ็ญศรี
เกษมสันต์ พานิชเจริญ
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4463
2022-09-26T09:50:29Z
2562-01-01T00:00:00Z
Title: ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสนุกสนานในการเรียนวิชาบาสเกตบอล : กรณีศึกษาชั้นเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
Authors: ระพีพัฒน์ เดือนเพ็ญศรี; เกษมสันต์ พานิชเจริญ
Abstract: การศึกษานี้ใช้ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยเกี่ยวข้องที่ส่งผลต่อความสนุกสนานในการเรียนวิชาบาสเกตบอล กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนมัธยมปลายของโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งจำนวน 35 คน (นักเรียนชาย 17 คน และนักเรียนหญิง 18 คน) ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาบาสเกตบอลในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โดยที่กลุ่มตัวอย่างทุกคนพร้อมผู้ปกครอง สมัครใจลงนามในหนังสือแสดงความยินยอมเข้าร่วมเป็นกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยนี้ การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้การสังเกต สัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง บรรยายเหตุการณ์สำคัญ และการวิเคราะห์เอกสาร วิเคราะห์ข้อมูลแบบอุปนัยด้วยวิธีเปรียบเทียบความคงที่ของข้อมูล และตรวจสอบความเชื่อถือได้ของข้อมูลด้วยวิธีสามเส้า ผลการวิจัยสรุปได้ 2 หัวเรื่อง โดยหัวเรื่องแรกคือ ปัจจัยที่ช่วยให้การเรียนบาสเกตบอลมีความสนุกมากขึ้น ได้แก่ (1) มีกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ดี (2) กิจกรรมมีความหลากหลายและแปลกใหม่ (3) ได้เล่นหรือแข่งขันเป็นทีม (4) ได้ฝึกทักษะก่อนการแข่งขันทีม (5) มีเจตคติที่ดีต่อกีฬาบาสเกตบอล และ (6) ครูผู้สอนเป็นกันเองและสอนดี ส่วนหัวเรื่องที่ 2 คือ ปัจจัยที่ส่งผลให้ความสนุกในการเรียนบาสเกตบอลลดน้อยลง ได้แก่ (1) สถานที่เรียนอากาศร้อน (2) อุปกรณ์การเรียนไม่เพียงพอ (3) มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนน้อย (4) กดดันกับการสอบวัดทักษะ (5) ตัวผู้เรียนไม่พร้อมกับการเรียน (เจ็บป่วยหรือไม่สบาย) และ (6) ได้รับบาดเจ็บจากการเรียน
Description: ได้ให้การสนับสนุนทุนวิจัยจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
2562-01-01T00:00:00Z
แนวทางการส่งเสริมการวิจัยของอาจารย์ในคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
วทัญญู วุฒิวรรณ์
https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/4459
2022-09-26T09:55:46Z
2563-01-01T00:00:00Z
Title: แนวทางการส่งเสริมการวิจัยของอาจารย์ในคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
Authors: วทัญญู วุฒิวรรณ์
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1. เพื่อศึกษาการทำงานวิจัยและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการทำงานวิจัยของอาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 2. เพื่อหาแนวทางการส่งเสริมการวิจัยของอาจารย์ในคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาโดยผู้วิจัยใช้การวิจัยและพัฒนา ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ อาจารย์ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กลุ่มตัวอย่าง คือ อาจารย์ที่เคยรับทุนอุดหนุนการวิจัยของคณะศึกษาศาสตร์ จำนวน 10 คน และอาจารย์ที่ไม่เคยรับทุนอุดหนุนการวิจัยของคณะศึกษาศาสตร์ จำนวน 45 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถามแนวทางการส่งเสริมการวิจัยของอาจารย์ในคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (𝑥𝑥̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)
ผลการศึกษาวิจัย พบว่า
1. อาจารย์ที่รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากคณะศึกษาศาสตร์ ต้องการทำผลงานเพื่อขอเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการ คิดเป็นร้อยละ 80.00 รองลงมาคือ ภาระหน้าที่ และต้องการค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมให้เป็นประโยชน์ต่อแวดวงวิชาการ คิดเป็นร้อยละ 40.00 เพื่อให้นิสิต หรือผู้สนใจสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปอ้างอิงได้ คิดเป็นร้อยละ 30.00 เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ คิดเป็นร้อยละ 20.00 และต้องการความยอมรับและชื่อเสียงทางวิชาการของตนเอง คิดเป็นร้อยละ 10.00
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำวิจัยของอาจารย์ที่เคยได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากคณะศึกษาศาสตร์ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (𝑥𝑥̅ = 0.77, SD = 4.30) เมื่อพิจารณาแต่ละประเด็น พบว่า กำหนดปัญหาวิจัยและวัตถุประสงค์การวิจัยได้อย่างถูกต้อง การสืบค้นเอกสาร และงานวิจัยจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง และจะรับฟังข้อเสนอแนะจากบุคคลอื่นอย่างมีเหตุผล ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด
3. อาจารย์ที่ไม่รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากคณะศึกษาศาสตร์ เนื่องจากมีภาระงานสอนมาก คิดเป็นร้อยละ 44.44 รองลงมาคือ ไม่มีพี่เลี้ยงในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำวิจัย คิดเป็นร้อยละ 26.67 และมีขั้นตอนการขอรับทุนยุ่งยากมาก คิดเป็นร้อยละ 15.56
4. ปัจจัยในการขอรับทุนอุดหนุนการวิจัยจากคณะศึกษาศาสตร์ในอนาคตของอาจารย์ที่ไม่เคยรับทุนอุดหนุนการวิจัยของคณะศึกษาศาสตร์ คือ การทำวิจัยเพื่อความก้าวหน้าในตำแหน่งที่สูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 64.44 รองลงมาคือ คณะกำหนดทิศทางการวิจัยที่ชัดเจน คิดเป็นร้อยละ 26.67
Description: โครงการวิจัยประเภทงบประมาณเงินรายได้จากกองทุนวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยบูรพา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562
2563-01-01T00:00:00Z