ปัจจัยการคงอยู่ของตัวแทนประกันชีวิตกรณีศึกษาตัวแทนบริษัทประกันชีวิตเอไอเอภาคตะวันออก

Abstract

การศึกษาวิจัยปัจจัยการคงอยู่ของตัวแทนประกันชีวิต กรณีศึกษา ตัวแทนบริษัทประกันชีวิตเอไอเอภาคตะวันออก มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการคงอยู่ของตัวแทนประกันชีวิต กรณีศึกษาตัวแทนบริษัทประกันชีวิตเอไอเอภาคตะวันออกเป็นการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพโดยการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพจะใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับตัวแทนประกันชีวิต จำนวน 10 คน ส่วนการวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามปลายปิดที่ผ่านการตรวจสอบความเชื่อมั่นและความตรง เชิงเนื้อหาโดยเก็บรวบรวมข้อมูลเฉพาะตัวแทนประกันชีวิต จำนวน 400 คน ซึ่งสถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน คือ สถิติ Multiple regression analysis (MRA) ผลการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เพศหญิง ร้อยละ75.0 มีอายุ 31-40 ปี ร้อยละ 76.0 มีการศึกษาในระดับปริญญาตรี ร้อยละ 68.2 มีสถานภาพโสด ร้อยละ 45.5 มีรายได้ต่อปีมากกว่า 600,001 บาท ร้อยละ 68.3 ทำอาชีพตัวแทนประกันชีวิตเป็นอาชีพหลัก ร้อยละ 74.0 ทำอาชีพตัวแทนประกันชีวิตมา 1-5 ปี ร้อยละ 48.0 และสังกัดสาขาชลบุรี ร้อยละ 36.3 โดยมีผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า บุคลิกภาพ ค่าตอบแทนการทำงานและความมั่นคงในการทำงานมีอิทธิพลต่อการคงอยู่ของตัวแทนประกันชีวิตอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และรูปแบบการทำอาชีพตัวแทนประกันชีวิตที่แตกต่างกัน มีผลต่อการคงอยู่ของการเป็นตัวแทนประกันชีวิตแตกต่างกัน โดยบุคลิกภาพและคุณสมบัติของตัวแทนประกันภัยต้องมีความตรงต่อเวลาในการนัดหมาย มีบุคลิกจริงใจ เป็นผู้ที่สามารถรับฟังความพึงประสงค์ของลูกค้าที่มีต่อการประกันชีวิตสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ลูค้าว่ามีความต้องการทำประกันชีวิตแบบไหน และคิดว่าค่าตอบแทนและสวัสดิการที่บริษัทมอบให้ตัวแทนประกัน มีความเหมาะสม และสามารถสร้างความมั่นคงในชีวิตได้ แต่ทั้งนี้ค่าตอบแทนและความมั่นคงของตัวแทนประกันขึ้นอยู่กับความสามารถและความขยันของตัวแทนประกัน ส่วนการสนับสนุนจากองค์กร พบว่า บริษัทประกันส่วนใหญ่จะมีหลักสูตรในการพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตที่จัดขึ้นเป็นประจำและมีหัวหน้ากลุ่มเป็นที่ปรึกษาในการทำงาน